สวัสดีครับ คุณ
Thiyada
ยินดีต้อนรับเข้าสู่ฝ่ายสนับสนุน
Microsoft Community
ครับ
สำหรับปัญหาที่คุณแจ้งว่าไม่สามารถหา
Virus & Threat Protection ใน
Windows Defender ได้นั้น ทางเราต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ปัญหาดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ หากคุณได้ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอื่นที่ไม่ใช่ของ
Microsoft
ซึ่งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอื่นสามารถปิดใช้งาน Windows Defender
และป้องกันไม่ให้เริ่มต้นใช้งานได้ เนื่องจาก Windows
10 มี Windows Defender เป็นโปรแกรมสแกนไวรัสอยู่แล้ว การติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัสอื่นอาจส่งผลต่อการทำงานของ
Windows Defenderได้ ดังนั้นหากคุณมีการติดตั้งโปรแกรมสแกนไวรัสอื่น เราแนะนำให้ถอนการติดตั้งครับ
หากคุณได้ทำขั้นตอนข้างต้นเเล้วและปัญหายังเป็นเหมือนเดิม ทางเราแนะนำให้แก้ปัญหาโดยวิธีดังต่อไปนี้ครับ
วิธีที่
1
การรัน SFC scan เเละ DISM tool:
ทางเราเเนะนำให้คุณรัน SFC scan เเละ DISM tool ครับ ซึ่งวิธีนี้จะสามารถซ่อมเเซมเเฟ้มระบบ Windows ที่สูญหายหรือเสียหาย ซึ่งคุณสามารถทำขั้นตอนดังนี้
กดปุ่ม Windows จากนั้นให้พิมพ์ Command Prompt > คลิกขวาที่ Command Prompt เเล้วเลือก Run as administrator > คัดลอก (Copy) คำสั่งต่อไปนี้
sfc /scannow เเล้วกด Enter
DISM.exe /Online /Cleanup-image /Restorehealth กด Enter
หมายเหตุ : ก่อนเครื่องหมาย / ให้เว้นวรรคครับ
หากปัญหายังเป็นเหมือนเดิม ทางเราเเนะนำให้คุณทำวิธีที่
2 ครับ
วิธีที่ 2 ปิดการใช้งานโปรแกรมสแกนไวรัสอื่น ๆ (third
party Antivirus):
ทางเราแนะนำให้ปิดการใช้งานของโปรแกรมป้องกันไวรัสอื่นที่ไม่ใช่ของ Microsoft ด้วยครับ เนื่องจากการใช้งานโปรแกรมสแกนไวรัสอื่นๆ อาจจะก่อกวนการทำงานของ Windows
defender ได้ครับ
หากปัญหายังเป็นเหมือนเดิม ทางเราเเนะนำให้คุณทำวิธีที่
3
วิธีที่ 3 การคลีนบูต
การคลีนบูต คือการเริ่มต้นคอมพิวเตอร์โดยใช้งาน Windows และ Driver น้อยที่สุด ซึ่งสามารถขจัดข้อขัดแย้งที่จะเกิดกับคอมพิวเตอร์ของคุณได้ คุณสามารถทำคลีนบูตเพื่อตรวจสอบปัญหาดังกล่าวโดยทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ
คลิกที่นี่ หรือลิงค์ภาษาอังกฤษสามารถศึกษาได้ที่นี่ครับ
คลิกที่นี่
หมายเหตุ: คุณควรสำรองข้อมูลที่สำคัญของคุณไว้ก่อนทำการคลีนบูต โดยทำตามขั้นตอนนี้ครับ
คลิกที่นี่
แต่หากได้ทำการแก้ไขปัญหาโดยขั้นตอนที่ได้กล่าวมาทั้งหมดในเบื้องต้นแล้ว ยังคงไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ คุณอาจจำเป็นต้องมีการลง
Windows
ใหม่ครับ (หมายเหตุ:
การติดตั้ง Windows ใหม่นั้น ทางคุณจะต้องมี Valid Product Key
หรือรหัสผลิตภัณท์ที่ยังคงมีสถานะปกติครับ) และก่อนทำการก่อน
Resert PC หรือลง
Windows
ใหม่นั้น ทางเราแนะนำให้คุณสำรองข้อมูลที่สำคัญของคุณไว้ก่อนโดยทำตามขั้นตอนดังนี้ครับ
คลิกที่นี่
ทางทีมงานต้องขอขอบคุณสำหรับความเข้าใจ และต้องขออภัยในความไม่สะดวกเป็นอย่างสูงครับ
ขอบคุณครับ
จากทีมงาน
Microsoft